ทำไมรอกโซ่ไฟฟ้าต้องมีระบบ Electric & Mechanical Brake
การทำงานของ รอกโซ่ไฟฟ้า (Electric Chain Hoist) ไม่ได้ขึ้นอยู่กับกำลังยกเพียงอย่างเดียว แต่ “ระบบเบรก” ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความมั่นคงในการใช้งาน โดยเฉพาะ ระบบ Electric & Mechanical Brake ที่ถูกติดตั้งมาคู่กัน ทำให้รอกสามารถหยุดการทำงานได้อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงของโหลดตก และยืดอายุการใช้งานของมอเตอร์
Electric Brake คืออะไร?
Electric Brake คือระบบเบรกที่ใช้หลักการทางไฟฟ้าในการหยุดการหมุนของมอเตอร์ โดยนิยมใช้กับรอกโซ่ไฟฟ้าแบบ 3 Phase AC Induction Motor ซึ่งแบ่งการทำงานได้ 2 วิธีหลักคือ:
DC Injection Brake
หลังจากตัดไฟ AC จะจ่ายกระแสตรง (DC) เข้าสู่ขดลวดสเตเตอร์ เพื่อสร้างสนามแม่เหล็กต้านการหมุนของโรเตอร์ ทำให้รอกหยุดการทำงานได้รวดเร็ว วิธีนี้มีประสิทธิภาพสูง แต่ต้องตัดไฟ DC ออกทันทีหลังหยุด ไม่เช่นนั้นอาจทำให้มอเตอร์ร้อนและเสียหาย
Resistance Brake (Power Disconnection & Regeneration)
ตัดกระแสไฟจากมอเตอร์และเปลี่ยนพลังงานจลน์ที่เหลือเป็นพลังงานความร้อนผ่านตัวต้านทาน (R-Brake) ช่วยให้การหยุดราบรื่นและลดการสึกหรอของระบบ
Mechanical Brake คืออะไร?
Mechanical Brake เป็นระบบเบรกที่อาศัยแรงเสียดทาน (Friction) โดยใช้ผ้าเบรกหรือดรัมเบรกช่วยชะลอความเร็วของเพลาจนหยุดสนิท ข้อดีคือโครงสร้างไม่ซับซ้อน ราคาไม่สูง และทำงานได้เสถียรเมื่อใช้คู่กับระบบไฟฟ้า
เหตุผลที่ต้องใช้ Electric & Mechanical Brake ร่วมกัน
การผสมผสานทั้ง Electric Brake และ Mechanical Brake ช่วยเสริมความปลอดภัยสูงสุด เพราะ:
– Electric Brake ให้การหยุดที่รวดเร็วและแม่นยำ
– Mechanical Brake ช่วยรองรับโหลดและรักษาเสถียรภาพ
– ลดความเสี่ยงจากโหลดตกหรือการทำงานผิดพลาดของระบบ
– เหมาะกับการยกของหนักและการใช้งานต่อเนื่องในโรงงานอุตสาหกรรม
ตัวอย่างรอกโซ่ไฟฟ้าที่มีระบบ Electric & Mechanical Brake
– KOBEC AS/AD Series : รอกโซ่ไฟฟ้าคุณภาพสูงจากญี่ปุ่น รองรับน้ำหนักตั้งแต่ 0.5 – 10 ตัน มีให้เลือกทั้งรุ่น AS (Single Speed) และ AD (Dual Speed) พร้อมระบบเบรกไฟฟ้าและเบรกกลไกที่ทำงานประสานกันเพื่อความปลอดภัยสูงสุด
– KOBEC BS/BD/CS Series : ออกแบบมาเพื่อการใช้งานทั่วไป ยกน้ำหนักได้ 0.5 – 2 ตัน รุ่น BS/CS เป็น Single Speed ส่วนรุ่น BD เป็น Dual Speed เหมาะกับงานที่ไม่ต้องใช้งานต่อเนื่องตลอดทั้งวัน
